AI ครองโลก!! จัดการอย่างไร

เรื่องน่ารู้ AI มีโอกาสครองโลกได้ไหม

หากวันใดวันหนึ่งโลกของเราเกิดสถานการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อเทคโนโลยีอัจฉริยะอย่าง AI ผันตัวกลายเป็นศัตรูของมนุษย์คงจะเถียงไม่ได้เลยว่าในอนาคตนั้นมีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูงว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น หากเราลองสังเกตดูดี ๆ ว่าปัจจุบันนี้ที่เราใช้ชีวิตอยู่กันนั้นแทบทุกย่างก้าวที่ AI ได้เข้ามามีส่วนแทบทุกอย่างโดยที่เราเคยชินกับมันไปแล้วด้วยซ้ำ แล้วเราจะมีวิธีเอาตัวรอดจากมันได้อย่างไร เราต้องมาทำความเข้าใจกับ AI เสียก่อน ซึ่งวันนี้เราสรุปมาให้ 5 ข้อที่ควรรู้และเตรียมตัวก่อน AI มาแทนที่มนุษย์อย่าเราได้ดังนี้

AI คืออะไร เราต้องมาทำความรู้จักกับ AI กันก่อน

AI คือระบบคอมพิวเตอร์ที่สามารถคิดแทนมนุษย์ได้ ในรูปแบบวิธีคิดอย่างที่มนุษย์คิด และเป็นตัวแปรสำคัญในด้านธุรกิจต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นธนาคาร การบริการ การขนส่ง AI ถือเป็นเทคโนโลยีที่มีความแม่นยำเป็นอย่างมาก

ความน่ากลัวของ AI

AI มีสิทธิ์ทำลายวัฒนธรรมของมนุษย์ เนื่องจากมันสามารถเรียนรู้พฤติกรรมเชิงลึกในมนุษย์ได้ดีซึ่งอาจจะสามารถแย่งงานประจำของคนเราได้ เนื่องจากมีความแม่นยำกว่ามนุษย์เป็นอย่างมาก และ AI ยังมีระบบสมองและข้อมูลการเชื่อมต่อกันและกันได้ดีกว่ามนุษย์

รู้จักเพิ่ม Skill ของตนเอง หรือ ฝึกเขียนโปรแกรมอย่างง่าย

เราน่าจะรู้แล้วว่า AI มีสิทธิ์แย่งงานของเราได้ ทั้งนี้มนุษย์เราเองต้องเพิ่มความสามารถของตัวเองขึ้นอีกระดับ ซึ่งปัจจุบันมีโรงงานอุตสาหกรรมมากมายที่ได้นำหุ่นยนต์มาแทนที่พนักงานประจำแล้วเพราะฉะนั้น มนุษย์อย่างเราต้องฝึกฝนตนเอง และต้องเรียนรู้ในการควบคุมปัญญาประดิษฐ์เหล่านี้ จะบอกว่าเป็นโชคดีของเด็กน้อยในยุคนี้ ที่โรงเรียนหลาย ๆ พื้นที่ได้เห็นความสำคัญในการเรียน Coding ให้แก่เด็ก ๆ ซึ่งการเรียน Coding คือการฝึกคิดให้เป็นระบบแบบ Computational Thinking. (ICT) โดยใช้ชุดคำสั่งจากคอมพิวเตอร์ สำหรับเด็กอนุบาลจะเป็นโปรแกรมชุดคำสั่งที่ง่ายไปจนยากสำหรับเด็กโต ซึ่งมีการเพิ่ม Skill ในการทำงานอีกด้านคือ การพลิกระบบการทำงานโดยพัฒนานวัตกรรมด้วยตนเอง เป็นผู้ประกอบการในแบบของเราเมื่อเราอยู่ในจุดที่เสี่ยงในการสูญเสียงานประจำ

เปลี่ยนความคิดก่อนที่ AI เพื่อนบ้านน่ารักจะกลายเป็นหุ่นสังหาร

เปลี่ยนความคิดที่ว่านี้เป็นการคิดแนวจิตวิทยาอย่างเช่น เราดีกับเขา เขาก็จะดีกับเราตอบ เราจึงอย่าคิดว่า AI เป็นภัยคุกคามของเรา เราต้องมองข้อดีของมันและใช้ชีวิตอยู่กับมันอย่างปกติ หากวันใดวันหนึ่งเกิดเหตุที่ว่า เหล่าสมองอัจฉริยะได้ออกมาเดินเพ่นพ่านตามท้องถนนร่วมกับเรา หากเราทำเหมือนว่า AI นั้นเป็นภัยคุกคามไม่นานพวกมันก็จะเห็นว่ามนุษย์โหดร้ายจำเป็นต้องกำจัด เป็นอีกข้อที่น่าคิดเลยทีเดียว

ฝึกการพึ่งพาตนเอง และ คิดแบบ AI

หากอยู่ในยุคที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายเช่นนี้ เพราะไม่มีใครอยากกลับไปยุคกลางรึยุคหินอีกรอบ แต่หากเกิดเหตุการณ์ AI ยึดครองโลกขึ้นมาจริง เราคงไม่มีทางเลือกที่จะต้องช่วยเหลือตัวเองไม่ใช้ระบบอัตโนมัติอัจฉริยะต่าง ๆ ทั้งในสายผลิตอย่างการผลิตหุ่น Android เรายิ่งไม่ควรใช้หุ่นผลิตหุ่นกันเองเด็ดขาด เนื่องจากเราไม่ทราบเลยว่าโปรแกรมที่เราติดตั้งในการผลิตมีการเปลี่ยนแปลงไปโดย AI กันเองหรือไม่ หากเราฝึกคิดเป็นระบบแบบ AI เราจะรู้ทันมันได้ ทั้งนี้เราสามารถเอาตัวรอดโดยใช้ความคิดแบบมนุษย์ความเข้าใจยากในจิตใจซึ่งเป็นจุดอ่อนของหุ่นอัจฉริยะเหล่านี้ได้ เพราะ AI เหล่านี้มีความคิดที่เป็นระบบ ความไม่เป็นระบบจึงถือเป็นข้อบกพร่องภายในหน่วยปฏิบัติการกลไลทางสมองของ AI นั้นเอง

แต่ไม่ว่าเหตุการณ์ในอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นสิ่งที่เราไม่ควรลืมคือ เราต้องอยู่ให้ได้ด้วยตนเองเช่นกัน'