จ่ายเงินออนไลน์ผ่าน PayPal ปลอดภัยแค่ไหน ?

PayPal เป็นช่องทางสำหรับการรับและส่งเงินออนไลน์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน และยังเรียกได้ว่าเป็นเจ้าแรกๆที่เปิดให้บริการทางด้านนี้อีกด้วย แต่ไม่ว่าอะไรก็ตามที่จะต้องเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องการเงินของเรา หลายๆคนคงต้องมีคำถามอย่างแน่นอนว่ามัน ปลอดภัยแค่ไหน ? 

แน่นอนว่าคงไม่มีบริการหรือการกระทำใดๆที่ปลอดภัย 100% อยู่แล้ว การรั่วไหลของข้อมูลอาจเกิดขึ้นได้ในหลายปัจจัย แต่ด้วยความโด่งดังและชื่อเสียงของ PayPal ที่ให้ความสำคัญในการวางระบบรักษาปลอดภัยหลายขั้นตอนในการป้องกันข้อมูลของลูกค้า ก็น่าจะเป็นการลดความเสี่ยงที่จะเกิดข้อผิดพลาดในการรั่วใหลของข้อมูลได้พอสมควร

เกี่ยวกับวิธีการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้

เว็บไซต์ PayPal มีการเข้ารหัสการรับส่งข้อมูลตามระบบรักษาความปลอดภัยที่เป็นมาตรฐาน ตราบใดที่ผู้ใช้อยู่ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่ปลอดภัยแล้ว มั่นใจได้เลยว่าจะไม่มีการรั่วใหลของข้อมูลในระหว่างทางถึง PayPal อย่างแน่นอน อีกทั้ง PayPal ยังใช้บริการบริษัทรักษาความปลอดภัยของข้อมูลออนไลน์ ที่ได้รับการยอมรับจากสถาบันการเงินในหลายๆเจ้า ให้เข้ามาช่วยดูแลอีกขั้น รวมถึงยังมีการจัดโปรแกรมดีๆ ที่เชิญชวนเหล่าแฮกเกอร์ทั่วโลกให้เข้ามาทดสอบเจาะระบบ หากแฮกเกอร์พบช่องโหว่หรือสามารถเจาะระบบเข้ามาได้ PayPal ยินดีจ่ายรางวัลเพื่อซื้อและแก้ไขช่องโหว่นั้น เพื่อเป็นการเสริมความแกร่งให้กับระบบความปลอดภัยของ PayPal ไปอีกขั้น

พูดถึงเรื่องความปลอดภัยระหว่างการจ่ายผ่าน PayPal และจ่ายให้ร้านค้าโดยตรง

การจ่ายเงินออนไลน์โดยการกรอกข้อมูลบัตรเครดิตต่างๆซื้อกับร้านค้าโดยตรงนั้น มีความเสี่ยงเท่ากับการกรอกข้อมูลบัตรเครดิตให้กับ PayPal นั่นแหละ เพียงแต่ว่าเราจะมั่นใจแค่ไหนว่าร้านค้าเหล้านั้นจะดูแลข้อมูลของเราด้วยระบบอย่างดี อีกทั้งแน่นอนว่าการที่เรากรอกข้อมูลบัตรเครดิตซื้อสินค้าโดยตรงกับร้านค้าหลายๆเจ้าย่อมเป็นการเพื่มความเสี่ยงที่จะเกิดการรั่วใหลของข้อมูลมากขึ้น ยิ่งมีผู้ถือข้อมูลสำคัญของเรามากเท่าไหร่ ความเสี่ยงก็ย่อมเพิ่มตามมากเท่านั้น ดังนั้นจะดีกว่าไหมถ้าเราส่งข้อมูลของเราไปเก็บไว้ในที่เดียวซึ่งมีระบบรักษาความปลอดภัยที่เป็นมาตรฐาน

ทิปส์เล็กๆ ทำอย่างไรเพิ่มความปลอดภัยในการซื้อสินค้าออนไลน์

• หมั่นอัพเดทอุปกรณ์และซอฟต์แวร์ที่ใช้อยู่เสมอ เพราะการอัพเดทที่ปล่อยออกมาใหม่ๆนั้นอาจรวมถึงการป้องการหรืออุดรอยรั่วในอุปกรณ์นั้นๆก็เป็นได้
   
• หลีกเลี่ยงการใช้ Wi-Fi สาธารณะในการทำธุรกรรมทางด้านการเงินต่างๆ รวมถึงการจัดการต่างๆเกี่ยวกับบัญชี PayPal ด้วย เพราะเราไม่สามารถรับรู้ได้ว่าในกลุ่มผู้ใช้ Wi-Fi เหล่านั้นจะมีผู้ไม่ประสงค์ดีแฝงตัวอยู่ด้วยหรือไม่
   
• ควรเลือกใช้ Credit Card ในการชำระเงิน แทนการใช้จ่ายผ่านเดบิตการ์ด
   
• สำหรับการทำธุรกรรมออนไลน์ ควรใช้คอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ส่วนตัวเท่านั้น
   
• หากต้องกดลิ้งค์หรือกระทำการใดๆผ่านอีเมล กรุณาตรวจสอบให้แน่ชัดว่ามาจากร้านค้าจริงๆ ก่อนดำเนินการ เพื่อป้องกันการแฝงตัว

ควรทำอย่างไรเมื่อถูกโกง หรือพบว่าสินค้าไม่เป็นไปอย่างที่ร้านค้ากล่างอ้าง

วิธีการปฏิบัติเมื่อเงินถูกขโมยไปจากบัญชี PayPal หรือสั่งซื้อสินค้าแล้วแต่กลับไม่ได้รับสินค้าจากผู้ขาย

1. Buyer Protection  เป็นโปรแกรมของ PayPal ในการดูแลความปลอดภัยให้แค่ผู้ชำระเงิน เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ใช้ได้รับสินค้าตามที่ต้องการจากการจับจ่ายนั้นจิงๆ โดยหากผู้ซื้อคิดว่าไม่ได้รับความถูกต้อง หรือถูกโกงจากผู้ขาย ผู้ซื้อสามารถส่งเรื่องเข้าโปรแกรมนี้ เพื่อให้ PayPal เป็นตัวกลางในการสืบสวนจากผู้ขายถึงเหตุผล หากเป็นิย่างที่ผู้ซื้อแจ้งจริง PayPal จะดำเนินการคืนเงินให้กับผู้ซื้อ
   "กรุณาตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่า สินค้าที่ซื้อร่วมรายการ และครอบครุมอยู่ใยความดูแลของ Buyer Protection"
    
2. Funding method  สำหรับการป้องกันเสริมอีกขั้น การใช้เครดิตการ์ดเพื่อชำระสินค้ามีความปลอดภัยมากกว่าการชำระด้วยบัตรเดบิต เพราะหากผู้ซื้อถูกโกง แต่ไม่ได้ครอบครุมอยู่ในโปรแกรม Buyer Protection แล้วนั้น ก็ยังสามารถส่งเรื่องไปที่ธนาคารผู้ออกบัตรเครดิต ให้ช่วยทำเรื่องระงับการใช้จ่ายที่ชำระไปได้อีกด้วย